หากท่านเป็นนักลงทุนที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำงานประจำ ไม่มีเวลามาคอยเฝ้าดูจังหวะตลาด หรือนักลงทุนมือใหม่ที่ยังไม่รู้จะเข้าลงทุนอะไรในช่วงไหน กลยุทธ์การลงทุนแบบ DCA สามารถช่วยตอบโจทย์ดังกล่าวได้ เพราะนอกจากจะช่วยลดผลกระทบจากความผันผวนของราคาหลักทรัพย์และช่วยสร้างวินัยการออมแล้ว ยังช่วยให้ไม่ต้องคอยพะวงกับภาวะตลาดรายวันมากเกินไป
DCA ย่อมาจากคำว่า Dollar Cost Averaging คือ กลยุทธ์การลงทุนรูปแบบหนึ่งที่ใช้วิธีลงทุนแบบถัวเฉลี่ยเป็นงวดๆ โดยไม่สนใจราคาของหลักทรัพย์ อาจจะเป็นทุกสัปดาห์หรือทุกเดือน เพื่อลดผลกระทบและความเสี่ยงจากจังหวะการเข้าซื้อที่อาจได้ในราคาที่สูง เรียกได้อีกอย่างว่าเป็นการลดผลกระทบจากความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ในระยะสั้น เพื่อคาดหวังผลกำไรจากการเติบโตในระยะยาวนั่นเอง อย่างไรก็ตาม DCA มีข้อจำกัดดังต่อไปนี้
- มีต้นทุนเฉลี่ย การทยอยลงทุนจะทำให้ต้นทุนถูกเฉลี่ยราคาทั้งช่วงที่สูงและช่วงที่ต่ำตลอดระยะเวลาการลงทุน ซึ่งทำให้มีโอกาสน้อยที่นักลงทุนจะทำกำไรสูงในระยะสั้นเมื่อเทียบกับการหาจังหวะตลาดและเข้าลงทุนทันทีได้ถูกเวลา แต่การลงทุนแบบ DCA จะช่วยลดผลกระทบจากการขาดทุนเมื่อตลาดเป็นขาลงได้ดีกว่าเช่นกัน
- ไม่ได้ช่วยลดความผันผวน กลยุทธ์นี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการกะจังหวะลงทุนในช่วงแรกเท่านั้น แต่ไม่ได้ช่วยลดความผันผวนของมูลค่าพอร์ตลงทุนโดยรวมลง
ในระยะสั้น การหาจังหวะลงทุนจะสามารถทำงานได้ดีหากภาวะตลาดกำลังเป็นแนวโน้มค่อยๆ ปรับขึ้น ในขณะที่การลงทุนแบบ DCA จะสามารถทำงานได้ดีกว่าการหาจังหวะลงทุนในช่วงที่ภาวะตลาดกำลังเป็นแนวโน้มขาลง
หากนักลงทุนสามารถหยั่งรู้ได้ว่าราคาหลักทรัพย์จะปรับตัวขึ้นหรือลงเมื่อไร ก็คงจะทำให้การสร้างกำไรในพอร์ตการลงทุนเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น แต่ในโลกความเป็นจริง หลักทรัพย์หลายประเภทโดยเฉพาะหุ้นมีความผันผวนสูงและมีทิศทางของราคาที่ยากต่อการคาดเดาในระยะสั้นแม้แต่กับผู้เชี่ยวชาญเองก็ตาม
ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนแบบ DCA จึงเข้ามาเป็นคำตอบสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงจากการหาจังหวะลงทุนและเป็นทางออกในช่วงที่ตลาดผันผวน และช่วยสร้างวินัยในการลงทุน อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเลือกใช้กลยุทธ์ใดในการเข้าซื้อหลักทรัพย์ การลงทุนและกระจายความเสี่ยงคือหัวใจในการสร้างความมั่นคงและมั่งคั่งในระยะยาวได้เป็นอย่างดี