ดร.อัจนา ไวความดี ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ บสก. ผลักดันองค์กรสู่บริษัทมหาชนเต็มรูปแบบ

          บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.) ได้มีการแต่งตั้ง ดร. อัจนา ไวความดี อดีตรองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นประธานกรรมการ บสก. มีผลตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน 2555 เป็นต้นไป พร้อมเดินหน้าผลักดันองค์กรให้ก้าวสู่การเป็นบริษัทมหาชนในอนาคต
 
          นายสุเมธ  มณีวัฒนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.) เปิดเผยว่า    ที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้น บสก. เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2555 ได้มีมติแต่งตั้ง ดร. อัจนา ไวความดี เป็นกรรมการบริษัทฯ แทนนางสว่างจิตต์ จัยวัฒน์ ประธานกรรมการซึ่งครบวาระไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2555 ที่ผ่านมา โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 5/2555 เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2555 ได้แต่งตั้ง ดร. อัจนา ไวความดี ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริษัทฯ มีผลตั้งแต่ 1 เมษายน 2555 เป็นต้นไป
 
          ดร. อัจนา ไวความดี มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในสายงานด้านเศรษฐกิจ การเงิน และการวิจัยเป็นอย่างดี เคยดำรงตำแหน่งสำคัญในหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย รองศาสตราจารย์ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  นักวิจัยอาวุโส มูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI)
 
          นายสุเมธ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริษัทฯ ของ ดร. อัจนา เป็นช่วงเวลาที่มีความเหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะขณะนี้ บสก. ได้เตรียมการให้บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินเข้ามาศึกษาความเป็นไปได้ และความเหมาะสมในการนำหุ้นของ บสก. เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตามที่กระทรวงการคลังเห็นชอบในหลักการที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบ สถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย จะดำเนินการนำหุ้นของ บสก. เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ  ซึ่ง บสก. เชื่อมั่นว่าการแปรรูปเป็นบริษัทมหาชนและบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเป็นการเสริมสร้าง บสก. ให้มีความคล่องตัวในการระดมทุนได้ด้วยตนเองเช่นเดียวกับบริษัทเอกชนทั่วไป  และยังเป็นการเพิ่มโอกาสในการทำธุรกิจมากยิ่งขึ้น เป็นประโยชน์ต่อทางการ และระบบการเงินโดยรวมอีกด้วย
 
          สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปี 2555 กรรมการผู้จัดการใหญ่ บสก. แจ้งว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยมีผลเรียกเก็บที่เป็นเงินสด ณ 31 มีนาคม 2555 อยู่ที่ 3,922  ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ 3,000 ล้านบาท  หรือคิดเป็นร้อยละ 130.75  ของเป้าหมาย และมีกำไรสุทธิก่อนสอบทานอยู่ที่  1,627 ล้านบาท ซึ่งเกินกว่าเป้าหมายของไตรมาสแรกเช่นกัน ทั้งนี้ บสก. ได้วางแผนกลยุทธ์เชิงรุกสำหรับการดำเนินงานในไตรมาสที่สอง และครึ่งปีหลัง โดยกำหนดเป็นแผนงานหลัก 6 แผนงาน และแผนงานย่อยอีก 17 แผนงาน ครอบคลุมการบริหารจัดการทั้งการเพิ่มขนาดสินทรัพย์  การพัฒนาสินทรัพย์  การบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขาย รวมไปถึงแผนการแปรรูป และการพัฒนาบุคลากรในทุกด้าน เช่น ทักษะทางด้านการตลาด การบริหารต้นทุน การเจรจาต่อรองที่มีประสิทธิผล รวมทั้งกฎหมาย      ที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น