บสก. แต่งตั้ง กฤษณ์ เสสะเวช ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมเดินหน้าผลักดันองค์กรสู่บริษัทมหาชนเต็มรูปแบบ

          สุเมธ มณีวัฒนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บสก. เตรียมส่งไม้ต่อให้เอ็มดีคนใหม่ หลังจากครบวาระเกษียณอายุ ในวันที่ 31 สิงหาคมนี้ เผยคณะกรรมการบริษัทฯ ตามความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง แต่งตั้ง นายกฤษณ์  เสสะเวช รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ขึ้นดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บสก. มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน นี้ เป็นต้นไป พร้อมเดินหน้าผลักดันองค์กรให้ก้าวสู่การเป็นบริษัทมหาชนเต็มรูปแบบ  

           นายสุเมธ  มณีวัฒนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2555 ที่ผ่านมา คณะกรรมการบริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด โดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลังให้แต่งตั้ง นายกฤษณ์ เสสะเวช รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ขึ้นดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บสก. มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2555 เป็นต้นไป

           ทั้งนี้ การเข้ามาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บสก. ของนายกฤษณ์ เสสะเวช ถือว่ามีความเหมาะสมอย่างยิ่ง เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ อีกทั้งเคยดำรงตำแหน่งระดับผู้บริหารในสถาบันการเงินหลายแห่ง และจะเข้ามาสานต่องานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการเดินหน้าให้บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินเข้ามาศึกษาความเป็นไปได้ และความเหมาะสมในการแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน และนำหุ้นของ บสก. เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

           นายสุเมธฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา ได้ผลักดันโครงการและดำเนินธุรกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ การเพิ่มขนาดสินทรัพย์ ในช่วงระหว่างปี 2553-2555 สามารถรับซื้อ      รับโอน NPL และ NPA จากสถาบันการเงินเข้ามาบริหารจัดการได้รวมมูลค่า 40,329 ล้านบาท และล่าสุดยังได้รับซื้อรับโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพจากบรรษัทบริหารสินทรัพย์ ไทย (บสท.) เข้ามาบริหารจัดการรวมมูลค่า 186,553 ล้านบาท

           นอกจากนี้ ในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา ยังเปิดสาขาในห้างสรรพสินค้าเพิ่มเติมอีก 2 แห่ง คือ สาขาเช็นทรัล แจ้งวัฒนะ และซีคอนสแควร์ รวมถึงการปรับปรุงและย้ายที่ตั้งของสำนักงานในต่างจังหวัด เพื่อรองรับการให้บริการกับลูกค้าอย่างครบวงจร พร้อมทั้งยังได้ต่อยอดโครงการพออยู่ พอกิน กับที่ดิน บสก. ด้วยการเปิดศูนย์เรียนรู้เกษตรพอเพียง ตลอดจนได้เปิดตัวโครงการทำกิน 1 ไร่ ทำได้ 1 แสน จนทำให้ บสก. สามารถจำหน่ายทรัพย์สินรอการขายที่เป็นที่ดินเกษตรกรรม โดยตั้งแต่เริ่มโครงการที่ดินเกษตรกรรมเพื่อพืชเศรษฐกิจ  โครงการพออยู่  พอกิน กับที่ดิน บสก. และโครงการทำกิน 1 ไร่ ทำได้ 1 แสน ในปี 2551 จนถึงปัจจุบัน มียอดขายที่ดินรวมจำนวน 19,640  ไร่ คิดเป็นมูลค่า 1,514 ล้านบาท

          อย่างไรก็ดี ยังได้บูรณาการในทุกมิติ เพื่อรองรับการแปรสภาพ ด้วยการจัดทำระบบฐานข้อมูลที่เพียงพอต่อการวิเคราะห์ของนักลงทุน (ระบบ MIS) มีการจัดทำผลประกอบการรายพอร์ต และจัดทำระบบบริหารความเสี่ยงให้สามารถรายงานสถานะความเสี่ยงได้ครบทุกระดับ พร้อมทั้งยังได้จัดโครงการพัฒนาบุคลากรของบริษัท โดยการจัดฝึกอบรม สัมมนา และเสริมทักษะด้านภาษาต่างประเทศ เพื่อรองรับการแปรสภาพของบริษัทในอนาคต เป็นต้น